ลักษณะ เป็นพระพุทธรูปปางมานวิชัย (หรือปางชนะมาร หรือปางสะดุ้งมาร) ขัดสมาธิเพชร สร้างด้วยทองสำฤทธิ์ หน้าตักกว้าง ๒๗ นิ้ว สูง ๓๗ นิ้ว สร้างในสมัยใดไม่ปรากฏ
ประวัติพอสังเขป
ราวปี พ.ศ. ๒๔๕๒ ซึ่งเป็นปีที่พระอาจารย์เนื่อง ได้ร่วมกับชาวบ้าน สร้างอุโบสถหลังแรกขึ้น แต่ยังขาดพระประธาน นท.พระปราบอังวะ รน. (เกลี้ยง เปรุนาวิน) จึงได้ไปติดต่อ ท่านเศรษฐีผู้หนึ่ง ที่บ้านห้วยขมิ้น กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีจิตรศรัทธาได้ถวายพระพุทธรูปเก่าแก่ประจำตระกูล ซึ่งได้รับตกทอดกันมาจากบรรพบุรุษ หลายชั่วอายุคน มาเป็นพระประธานในอุโบสถหลังแรกวัดเภตราสุขารมย์ (ปัจจุบันเรียกวิหารเก่า)
ต่อมา พ.ศ.๒๕๓๓ พระครูสังวรสมาธิวัตร(พระราชภาวนามงคล) เห็นว่าที่อุโบสถหลังเก่าหรือวิหารเก่า มีความชำรุดทรุดโทรม ไปตามกาลเวลา และไม่สวยงาม จึงได้ร่วมกับชาวบ้าน สร้างวิหารหลังใหม่ขึ้น สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กแบบจัตุรมุข กว้าง ๑๔.๒๐ เมตร ยาว ๑๔.๒๐ เมตร หลังคามุงด้วยกระเบื้องสุโขทัย มีช่อฟ้า ๑๒ ช่อ ใบระกา หางหงส์ พื้นวิหารปูด้วยกระเบื้องหินอ่อน สร้างเสร็จเมื่อพ.ศ. ๒๕๓๕ และได้อัญเชิญองค์หลวงพ่อทอง มาประดิษฐาน ณ วิหารหลังใหม่ จนถึงปัจจุบัน
ชาวบ้านเรียกกันว่า “องค์หลวงพ่อทอง” เพราะมีลักษณะลงรักษ์ ปิดทอง มีสีทองชาวบ้านนิยมมาบนบานสารกล่าวขอพร ถ้าหากประสบความสำเร็จสมความปรารถนา ก็จะถวายด้วยกล้วยต้ม คลุกมะพร้าว ก็มักจะสำฤทธิ์ผลทุกคนไป
ทุกวันที่ ๑๖ เมษายน ของทุกปี จะมีการอัญเชิญองค์หลวงพ่อทอง ไปแห่รอบตลาดบ้านเพ เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมสรงน้ำ ขอพร ในวันนั้น จะมีประชาชนจำนวนมาก ทั่งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ร่วมในขบวนแห่งองค์หลวงพ่อทอง และเล่นสาดน้ำกัน เป็นที่สนุกสนานจนเป็นประเพณี ของชาวตำบลเพ